แชร์สนั่นโซเชียล : นาทีระทึก! สกัดเหตุอาละวาดทุบรถ - ช่อง 7

svetkonews.blogspot.com

โดยผู้ชายที่ถอดเสื้อ คือ ผู้ก่อเหตุที่ก่อนหน้านี้เมาแล้วอาละวาดทุบรถไป 2-3 คัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งก็เข้ามาดู ชายคนนี้ก็พูดจาโวยวาย จนลุกขึ้นปรี่จะมาหาเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่สวมชุดขาว เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ เห็นท่าไม่ดีก็เข้าชาร์จตัวก่อนเลย ซึ่งคลิปนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Travel ได้ระบุ "เหรียญต่างมุมมอง เหตุซึ่งหน้าแบบนี้กับการป้องปราม เพื่อไม่ให้เหตุมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ถือว่าทำได้ดีนะ รักษาความไม่ประมาทเสมอ เหตุอาละวาดทุบรถข้างโรงเรียนหมากแข้ง  น้องโซดา ไหวพริบดีมาก เนื่องจากผู้อาละวาด เหมือนจะเข้าไปทำร้ายร่างกาย จึงต้องทำการชาร์จไว้เพื่อสงบสติอารมณ์ โดยปกติเราจะไม่ทำ เพราะไม่ใช่หน้าที่ แต่จำเป็นเราก็ต้องทำ เพื่อป้องกันตัวเอง ชื่นชมครับ สมกับที่ผ่านการอบรมอาสาตำรวจจากตำรวจภูธรอุดรธานี"

ชาวเน็ตเห็นแล้ว แหม! บางคนอินจัด คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ บอกว่า “ถ้าเป็นล่ะก็ ผมจะแอบฟันศอกคนก่อเหตุสักที ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทำดีแล้ว หยุดความสูญเสีย" หลายต่อหลายคนก็บอกเจ้าหน้าที่ทำถูกต้องแล้ว ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ แต่อย่างว่ากระแสดรามา ก็เข้ามาติงว่าทำรุนแรงเกินไปไหม ทำไมต้องไปรุมชาร์จกันอย่างนั้น ถ้าคนก่อเหตุเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

ทีมข่าว 7HD พยายามสืบหาว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไหน ก็รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน โดย คุณพีรพงษ์ ยศอ่อน ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ที่สวมชุดสีขาว ที่ชายคนก่อเหตุจะเข้ามาทำร้าย ชายคนดังกล่าวไม่ทราบว่าเมาสุราหรือยา ก่อเหตุอาละวาด เจ้าหน้าที่ก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ เขาก็ปากระเป๋ามาให้ตนเอง บอกให้ตรวจค้นเลย ตนเองก็โยนกลับให้ เขาก็โยนอีก ทำแบบนี้เรื่อยๆ ไม่นาน จู่ๆ ก็ลุกขึ้นพรวดตรงปรี่เข้ามา ในมือถือลวดเอาไว้ด้วย นาทีเสี่ยงนั้น เจ้าหน้าที่ก็เลยต้องตัดสินใจพุ่งเข้าชาร์จระงับเหตุ ซึ่งทุกคนต่างก็ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้รับการอบรมมา ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุแต่อย่างใด หลังจากจับตัวได้แล้วตำรวจก็ควบคุมตัวชายรายนี้ไปโรงพัก

ขอบคุณ Facebook : อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Travel

Let's block ads! (Why?)

"สกัด" - Google News
August 24, 2020 at 01:50PM
https://ift.tt/31o7HqQ

แชร์สนั่นโซเชียล : นาทีระทึก! สกัดเหตุอาละวาดทุบรถ - ช่อง 7
"สกัด" - Google News
https://ift.tt/2XSFEwv


Bagikan Berita Ini